หลังจากรอดาวโหลดเมื่อวาน จนสุดท้ายก็ไม่ได้โหลดเพราะว่าแบตโน๊ตบุ๊กหมดเอาซะก่อน เลยให้เซิร์ฟเวอร์ดาวโหลดเก็บไว้แทน แล้วตอนเช้าค่อยมาโหลดใหม่ แล้วก็ได้ลองสมใจ อันนี้ก็ขอลองเขียนแนะนำโปรแกรมยาวๆ ดูหน่อยละกัน สำหรับของเล่นที่มีมาใหม่ต่างๆ หลายคนคงดูคร่าวๆ มาบ้างแล้วที่ blognone อันนี้ก็เขียนละเอียดหน่อยนึงละกัน
เริ่มจากตอนแรกที่เปิดเข้าโปรแกรมก็เจอหน้าตาที่เปลี่ยนไป
จะบอกสวยขึ้นดีป่าวหว่า แต่รู้สึกมันม่วงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาการซันเริ่มออกฮะๆๆ ความม่วงเข้าตา
เปิดมาหน้าแรกก็เลือก workspace อันนี้ไม่มีอะไรแปลกใหม่ แต่ที่แปลกใหม่คือหน้าจอหลัก ที่มีปุ่มแปลกใหม่เข้ามา นั่นคือ Breadcrumb พี่ก็บอกว่ามาจากรอยขนมปังในเรื่อง แฮนเซลกับเกรเทล โฮ่คิดได้ไงนี่ ปุ่มก็หน้าตาประมาณนี้ อยู่ข้างๆ กับปุ่ม search ในแถบเครื่องมือด้านบน พอกดแล้วก็จะได้ แถบหน้าตาคล้ายๆ ด้านล่างขึ้นมาอยู่เหนือส่วนที่แก้ไขโค้ด โดยจะบอกรายละเอียดว่าตอนนี้เราแก้ไขคลาสไหน แล้วมันอยู่ที่ใด สืบเชื้อสายมาจากใคร ประมาณนี้
ดูหน้าจอรวมๆ หน่อยดีกว่า
ที่เห็นด้านบนนี่มีติดส่วนขยายไปเพิ่มบ้างแล้วเช่น ECF และ subclipse สำหรับคนที่อ่าน blognone มาก่อนคงสงสัยว่าทำไมต้องติด ECF เพิ่ม ก็เพราะว่าผมไม่ได้โหลดชุดติดตั้งมาตรฐานจากหน้าแรกของ Eclipse หนะครับ เนื่องจากของเล่นมันเยอะแยะมากมาย ดังนั้นเลยต้องติดเพิ่มเอง (แต่จริงๆ ชุดมาตรฐานที่ Eclipse ให้มาอาจจะไม่มีก็ได้นะ ไม่ได้โหลดอ่ะ)
ถัดมาคือส่วนที่ชอบมากๆ อยากได้มานานแล้ว นั่นคือ Import/Export launcher เพราะเวลาลงเครื่องใหม่ที จะได้ไม่ต้องปวดหัวตั้งค่า config ต่างๆ ใหม่ทั้งหมด
ดูจากด้านบนมันสามารถเลือกเป็นชุดได้ด้วยว่าจะเอาอะไรออกมาบ้าง อย่างของผมคงต้องเอาส่วนที่ไว้ใช้ทำงานหลักๆ ออกมากับตัวรัน test ทั้งหลาย จากนั้นมาดู import มั่ง
ก็เหมือนกันสามารถเลือกได้ว่าจะเอาอะไรเข้ามาบ้าง งานนี้ประทับใจสุดๆ เลย
ส่วนที่ต่างจาก Europa ถัดมาก็คือตอนล้างโปรเจคเพื่อ build ใหม่ทั้งหมด ของเก่าต้องมานั่งเลือกจากเมนูเองเพื่อให้คอมไพล์ใหม่ แต่ Ganymede ไม่ต้องแล้วมีให้เลือกด้านล่างเลยว่าจะ build ใหม่ทันทีหรือไม่
ถัดมาก็คือ ECF เป็นเครื่องมือที่ไว้ใช้ Eclipse ในการสื่อสารกับคนอื่น เป็นอะไรที่อยากได้อยู่เหมือนกัน ลองดูหน้าตาเลยดีกว่า อันนี้ผมทดลองสองอย่างคือ MSN กับ Gtalk จริงๆมี IRC ด้วยแต่ว่าอันนั้นหาวิธีเปลี่ยน charset ไม่เจอทำให้คุยภาษาไทยไม่ได้เลย T T” ไม่เป็นไรอันนั้น X-chat มันยังทดแทนได้อยู่
พอกดคุยกับคนอื่นแล้วมันก็จะมาเปิดหน้าต่างด้านล่างให้แบบนี้
แล้วก็ถ้าเรามีรายชื่อเยอะๆ ก็สามารถค้นหาได้อีกต่างหาก
งานนี้ไม่ต้องปิด Eclipse อีกต่อไปแล้วโปรแกรมเดียว คุย ทำงาน ไปในตัว ต่อไปมันจะมีเกมเข้ามาด้วยป่าวหว่า ฮะๆๆ
แต่ๆ คิดว่าตัว ECF ยังต้องพัฒนาต่อไปอีกเยอะอยู่โดยเฉพาะ MSN เพราะที่ผมเจอมาคือ มันโหลดชื่อเพื่อนที่ออนไลน์มาให้ผมไม่หมดอ่ะ แถมเล่นๆ ไปมีค้างอีกต่างหาก ไม่ได้ค้างเฉพาะ MSN ซะด้วยค้างทั้ง Eclipse เลยวิธีแก้ Force quit แล้วเปิดใหม่สถานเดียว – -” ไม่รู้เป็นเฉพาะ Linux หรือป่าวนะ
ที่เปลี่ยนไปอีกอย่างแล้วทำให้ผมเวียนหัวนิดๆ คือ หน้าจอตัวติดตั้งส่วนเสริมทั้งหลายที่เปลี่ยนไปเยอะพอควร เรียกว่าไม่มีเค้าเดิมเหลืออยู่เลยดีกว่า
อันนี้หน้าจอติดตั้งโปรแกรม ดีขึ้นมากมายมี search แถมเลือกๆพร้อมกันจากหน้านี้เลย ไม่ต้องเปลี่ยนหน้าต่างมากมายเหมือนแต่ก่อนแล้ว ถัดมาเป็นหน้าต่างที่แสดงถึงส่วนเสริมทั้งหลายแหล่
เปลี่ยนไปแบบไม่มีเค้าเดิมเลยหละอันนี้ แถมพี่ถามมาว่าจะปิดบางตัวทำไง แบบไม่ต้องเอาออก – -” ดูแล้วก็ไม่รู้ทำยังไงเหมือนกัน ใครรู้ช่วยบอกที
อื่นๆ เล็กๆน้อยที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน้าตาโปรแกรมก็จะเป็นพวก warning และ error ต่างๆ ที่คราวนี้ค่าพื้นฐานมันให้มาค่อนข้างเข้มงวดพอสมควรทำให้โค้ดทั้งหมดตอนแรกผมนี่แดงพรื๊ด คอมไพล์ไม่ได้เลย ต้องไปปรับ warning/error ใน preference อีกนิดหน่อยให้มันเข้มงวดน้อยลง และก็อีกเรื่องที่โคตรน่าเศร้าสำหรับคนทำ Flex อย่างผมคือ มันใช้กับ Flex builder ตัวปัจจุบันไม่ได้นะครับ คือติดได้แต่ mxml จะไม่สามารถแก้ไขได้อ่ะ งานนี้ก็คงรอ Adobe ต่อไป แต่ไม่เป็นไร ยังไงตอนนี้รุ่นของ Linux ก็ยังฟรีอยู่หนินะ ;p ผมรอได้ (จริงๆ คือส่วนใหญ่ผมเขียนแต่ actionscript หนะมันไม่ได้รับผลกระทบแหะๆ ยังแก้ไข + auto complete สวยงามเหมือนเดิม)
อ๊ะเกือบลืมถึงตอน compile อยากจะบอกว่ามันเร็วขึ้นแบบเห็นผล เทียบจากตอนล้างแล้วให้มันสร้างใหม่หมด มันไม่นานเหมือนตอน Europa อันนี้ก็ประทับใจ สำหรับ JUnit นั้นผมไม่ได้ลองนะ เพราะใช้ TestNG กันหนะครับ แต่ผมก็ไม่ค่อยถูกกับเครื่องมือทดสอบพวกนี้อยู่แล้วหละ ผ่านๆ มันไปละกันนะ ^^!