Comments on: I http://llun.in.th/2009/07/i/ /īm/ /ə/ /prōgræmər/ Sun, 26 Feb 2012 02:23:00 +0000 hourly 1 http://wordpress.org/?v=3.3.1 By: ปลาทู http://llun.in.th/2009/07/i/#comment-502 ปลาทู Wed, 29 Jul 2009 11:50:21 +0000 http://llun.in.th/?p=1169#comment-502 ยาวพืด ยาวพืด

]]>
By: misui http://llun.in.th/2009/07/i/#comment-501 misui Tue, 28 Jul 2009 09:04:46 +0000 http://llun.in.th/?p=1169#comment-501 ยาวพืช ยาวพืช

]]>
By: misui http://llun.in.th/2009/07/i/#comment-500 misui Tue, 28 Jul 2009 09:04:27 +0000 http://llun.in.th/?p=1169#comment-500 ยาวพลืด ยาวพลืด

]]>
By: ปลาทู http://llun.in.th/2009/07/i/#comment-499 ปลาทู Tue, 28 Jul 2009 08:33:03 +0000 http://llun.in.th/?p=1169#comment-499 ลองมาดูภาษาอังกฤษมั่ง เท่าที่รู้มีสองคำ I กับ My แถมแยกหน้าที่กันชัดเจนว่าถ้าพูดถึงตัวเองเป็นคนทำใช้ I นะถ้าใช้คู่กับอย่างอื่นใช้ My นะ ไม่มีลำดับชั้นทางภาษาเหมือนไทย จะว่าเพราะประเทศไทยเรามีลำดับชั้นทางสังคม แต่อังกฤษมันก็มีนี่หว่า เอ๊ะ หรือว่าเพราะเราได้รับอิทธิพลจากศาสนาพราหมณ์ เลยแบ่งวรรณะทางภาษาเวลาคุยกัน แล้วทำไมระดับเดียวกันมันยังมีหลายคำด้วยเนี๊ยะ ช่างสับสนยิ่งนัก มาย? my ? มันคือสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของอ่า เกี่ยวไรเอ่ย จะบอกว่า I and Me หรือเปล่า เอ่ย มัน I จะใช้ตอนที่เป็นประธาน ส่วน me จะใช้เมื่อเป็นกรรมเท่านั้นเอง ส่วนภาษาไทย จีน เวียดนาม เขมร มาเลเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี ฯลฯ ในแถบเอเชีย มีวัฒนธรรมทางภาษาเหมือนไทยเช่นกันคือ มีสรรพนามในการเรียกหลายคำเช่นกัน ถ้าจะบอกว่าเพราะศาสนาพราหมณ์ ฮินดูเข้ามาก็อาจจะไม่ถูกเท่าไหร่ เพราะวิวัฒนาการของภาษา มันมาในตั้งแต่สมัยยุคประวัติศาสตร์(ยุคประวัติศาสตร์กับยุคหินแบ่งกันด้วยอักษร) มีมาตั้งแต่ก่อนการติดต่อกับต่างประเทศด้วยซ้ำ ไม่พูดดีกว่าเผลอๆสามวันยังไม่จบ ในทางแถบตะวันตก การเดาอายุเป็นสิ่งที่ไม่สุภาพสักเท่าไหร่เช่น ปกติเวลาเรียกคนยังไม่แต่งงาน จะเรียกมิส หรือแต่งงานแล้วเรียกมาดาม แต่ส่วนใหญ่ที่เรียก ถ้ายังไม่ได้แต่งงานแล้วดูแก่ๆ แต่มีคนเรียกมาดามเค้าก็โกรธเอา แล้วด้วยที่วัฒนธรรมทางแถบตะวันตก จะมีช่องว่างระวางบุคคลมากกว่าในวัฒนธรรมเอเชียละมั่ง(นะ) มันเลยเป็นการกำหนดการใช้ภาษาไปในตัวด้วย ส่วนทำไมเค้าบอกว่าภาษาฝรั่งเศสไพเราะ ก็เป็นเพราะการเชื่อมเสียงของภาษา แต่ภาษาสเปน อังกฤษ บลาๆ ก็มีการเชื่อมเสียงด้วยเหมือนกัน ถ้าว่ากันตามจริง ภาษาอังกฤษดูง่ายออกเพราะว่ามีชั้นของภาษาไม่มาก น่าจะพูดได้เร็วๆน สู้ๆๆๆๆ ลองมาดูภาษาอังกฤษมั่ง เท่าที่รู้มีสองคำ I กับ My แถมแยกหน้าที่กันชัดเจนว่าถ้าพูดถึงตัวเองเป็นคนทำใช้ I นะถ้าใช้คู่กับอย่างอื่นใช้ My นะ ไม่มีลำดับชั้นทางภาษาเหมือนไทย จะว่าเพราะประเทศไทยเรามีลำดับชั้นทางสังคม แต่อังกฤษมันก็มีนี่หว่า เอ๊ะ หรือว่าเพราะเราได้รับอิทธิพลจากศาสนาพราหมณ์ เลยแบ่งวรรณะทางภาษาเวลาคุยกัน แล้วทำไมระดับเดียวกันมันยังมีหลายคำด้วยเนี๊ยะ ช่างสับสนยิ่งนัก

มาย? my ? มันคือสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของอ่า เกี่ยวไรเอ่ย

จะบอกว่า I and Me หรือเปล่า เอ่ย

มัน I จะใช้ตอนที่เป็นประธาน ส่วน me จะใช้เมื่อเป็นกรรมเท่านั้นเอง

ส่วนภาษาไทย จีน เวียดนาม เขมร มาเลเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี ฯลฯ ในแถบเอเชีย

มีวัฒนธรรมทางภาษาเหมือนไทยเช่นกันคือ มีสรรพนามในการเรียกหลายคำเช่นกัน

ถ้าจะบอกว่าเพราะศาสนาพราหมณ์ ฮินดูเข้ามาก็อาจจะไม่ถูกเท่าไหร่ เพราะวิวัฒนาการของภาษา

มันมาในตั้งแต่สมัยยุคประวัติศาสตร์(ยุคประวัติศาสตร์กับยุคหินแบ่งกันด้วยอักษร)

มีมาตั้งแต่ก่อนการติดต่อกับต่างประเทศด้วยซ้ำ ไม่พูดดีกว่าเผลอๆสามวันยังไม่จบ

ในทางแถบตะวันตก การเดาอายุเป็นสิ่งที่ไม่สุภาพสักเท่าไหร่เช่น

ปกติเวลาเรียกคนยังไม่แต่งงาน จะเรียกมิส หรือแต่งงานแล้วเรียกมาดาม แต่ส่วนใหญ่ที่เรียก

ถ้ายังไม่ได้แต่งงานแล้วดูแก่ๆ แต่มีคนเรียกมาดามเค้าก็โกรธเอา แล้วด้วยที่วัฒนธรรมทางแถบตะวันตก

จะมีช่องว่างระวางบุคคลมากกว่าในวัฒนธรรมเอเชียละมั่ง(นะ) มันเลยเป็นการกำหนดการใช้ภาษาไปในตัวด้วย

ส่วนทำไมเค้าบอกว่าภาษาฝรั่งเศสไพเราะ ก็เป็นเพราะการเชื่อมเสียงของภาษา แต่ภาษาสเปน อังกฤษ บลาๆ

ก็มีการเชื่อมเสียงด้วยเหมือนกัน

ถ้าว่ากันตามจริง ภาษาอังกฤษดูง่ายออกเพราะว่ามีชั้นของภาษาไม่มาก น่าจะพูดได้เร็วๆน

สู้ๆๆๆๆ

]]>
By: ioxtream http://llun.in.th/2009/07/i/#comment-498 ioxtream Wed, 22 Jul 2009 06:01:35 +0000 http://llun.in.th/?p=1169#comment-498 อ่อครับ ถ้าพูดถึงเรื่องสรรพนามแทนตัวผู้พูดมีอยู่ 3 บุรุษครับ สรรพนามบุรุษที่1 ใช้แทนตัวผู้พูด ได้แก่ เรา ฉัน กระผม กู ข้า ... สรรพนามบุรุษที่2 ใช้เรียกคนที่เราพูดด้วย ได้แก่ เธอ คุณ มึง เอ็ง ... สรรพนามบุรุษที่3 ใช้แทนคนที่เราพูดถึง (บุคคลที่3)ได้แก่ ท่าน เขา มัน ... **ปล. คำว่า"ท่าน" อาจจะเป็นได้ทั้งบุรุษที่ 2 และ 3 ก็มีเท่านี้ล่ะครับ แต่บางที ผมก็ใช้ผิดบ้างล่ะ เรียกกันมั่วเหมือนกัน (อิอิ :)) อ่อครับ ถ้าพูดถึงเรื่องสรรพนามแทนตัวผู้พูดมีอยู่ 3 บุรุษครับ
สรรพนามบุรุษที่1 ใช้แทนตัวผู้พูด ได้แก่ เรา ฉัน กระผม กู ข้า …
สรรพนามบุรุษที่2 ใช้เรียกคนที่เราพูดด้วย ได้แก่ เธอ คุณ มึง เอ็ง …
สรรพนามบุรุษที่3 ใช้แทนคนที่เราพูดถึง (บุคคลที่3)ได้แก่ ท่าน เขา มัน …

**ปล. คำว่า”ท่าน” อาจจะเป็นได้ทั้งบุรุษที่ 2 และ 3
ก็มีเท่านี้ล่ะครับ แต่บางที ผมก็ใช้ผิดบ้างล่ะ เรียกกันมั่วเหมือนกัน (อิอิ :) )

]]>
By: llun http://llun.in.th/2009/07/i/#comment-497 llun Fri, 17 Jul 2009 13:40:11 +0000 http://llun.in.th/?p=1169#comment-497 จริงๆ แค่สงสัยนะ เพราะได้ยินทุกคำทุกวันเลย เรียกว่าเปลี่ยนคนคุยทีก็จะเปลี่ยนสรรพนามคุยที บางครั้งก็สับสนเอง จริงๆ แค่สงสัยนะ เพราะได้ยินทุกคำทุกวันเลย เรียกว่าเปลี่ยนคนคุยทีก็จะเปลี่ยนสรรพนามคุยที บางครั้งก็สับสนเอง

]]>
By: ioxtream http://llun.in.th/2009/07/i/#comment-496 ioxtream Fri, 17 Jul 2009 07:45:39 +0000 http://llun.in.th/?p=1169#comment-496 พี่แนทคงเคบอ่านพวกกลอนหรือบทกวี อย่างที่ๆคุ้นๆ ก็คือสุนทรภู่หรือเปล่าครับ ภาษาที่แต่งออกมานั้นเป็นภาษาที่งดงามมาก เพราะดังนั้นภาษาไทยจึงเป็นภาษาที่งดงามที่สุด(ในความคิดของผมนะ)ของโลกเลยก็ว่าได้เพราะไม่ว่าจะเป็นท่วงทำนองวรรณยุกต์ต่างๆ เลียนเสียงดนตรีทั้งนั้น เพราะดังนั้นภาษาไทยจึงมีคำเยอะแยะมากมายเพื่อให้เอื้อกับนักกวี เพราะในอดีตบ้านเมืองเรามีนักกวีหลายท่านเลยทีเดียวครับ และภาษาไทยเราเอาคำมากจากภาษาบาลี และสันสฤษครับซึ่งเป็นภาษาโบราณ(ชอบเอามาตั้งเป็นชื่อคนไทยกัน)ใช้ในทางพุทธศาสนา เพราะบ้านเมืองของเราเป็นเมืองพุทธครับ อีกภาษาษาที่จะเรียกว่าไพเราะเหมือนกันก็คือภาษาฝรั่งเศษครับ คำเยอะมากเหลือเกิน(เห็นเค้าบอกผมมา) ปล.เขียนซะยาวเลย ^^ คงไม่ว่ากัน พี่คงพอเข้าใจนะครับ พี่แนทคงเคบอ่านพวกกลอนหรือบทกวี อย่างที่ๆคุ้นๆ ก็คือสุนทรภู่หรือเปล่าครับ ภาษาที่แต่งออกมานั้นเป็นภาษาที่งดงามมาก เพราะดังนั้นภาษาไทยจึงเป็นภาษาที่งดงามที่สุด(ในความคิดของผมนะ)ของโลกเลยก็ว่าได้เพราะไม่ว่าจะเป็นท่วงทำนองวรรณยุกต์ต่างๆ เลียนเสียงดนตรีทั้งนั้น

เพราะดังนั้นภาษาไทยจึงมีคำเยอะแยะมากมายเพื่อให้เอื้อกับนักกวี เพราะในอดีตบ้านเมืองเรามีนักกวีหลายท่านเลยทีเดียวครับ และภาษาไทยเราเอาคำมากจากภาษาบาลี และสันสฤษครับซึ่งเป็นภาษาโบราณ(ชอบเอามาตั้งเป็นชื่อคนไทยกัน)ใช้ในทางพุทธศาสนา เพราะบ้านเมืองของเราเป็นเมืองพุทธครับ

อีกภาษาษาที่จะเรียกว่าไพเราะเหมือนกันก็คือภาษาฝรั่งเศษครับ คำเยอะมากเหลือเกิน(เห็นเค้าบอกผมมา)

ปล.เขียนซะยาวเลย ^^ คงไม่ว่ากัน พี่คงพอเข้าใจนะครับ

]]>